pot odds
pot odds คืออะไร?
ก่อนจะอ่านเรื่อง pot odds แนะนำให้อ่านบทความเรื่อง expect value กันก่อนนะครับที่
>> https://www.thaipokeronline.net/expect-value/
จากบทที่แล้วที่เราได้ยกตัวอย่างของวิธีคำนวณการเล่นแบบ expect value หรือ EV กันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูวิธีการคำนวณแบบลัดๆโดยการคำนวณ pot odds กันนะครับ ซึ่งการคำนวณ pot odds จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับ “อัตราส่วนของไพ่ที่เราต้องการจะเปิดเจอเพื่อที่จะชนะ” มาดูกันว่ามันมีวิธีการอย่างไร?
pot odds นั้นเป็นแนวคิดที่นำมาใช้ประโยชน์กับเกมโป๊กเกอร์ได้เป็นอย่างดี โดยการเปรียบเทียบระหว่าง จำนวนเงินกองกลางที่อยู่ใน pot กับจำนวนเงินที่เราต้อง call ในมือนั้น เช่น จากตัวอย่างในบทความที่แล้ว ที่มีเงินใน pot มีอยู่ทั้งหมด 7,000 บาท และเราต้องลงเงิน 2,000 บาทเพื่อที่จะ call เพราะฉนั้นอัตราส่วนของ pot odd ก็คือ 7,000 ต่อ 2,000 หรือ 3.5 ต่อ 1 นั่นเองครับ
ซึ่งหากเราเข้าใจเรื่อง pot odds เป็นอย่างดีแล้ว เราจะสามารถนำมาใช้ตัดสินใจในเมื่อเราต้องการจะ call มือใดๆก็ตาม โดยให้เปรียบเทียบระหว่าง pot odds กับโอกาสที่เราจะชนะในมือนั้น และถ้า pot odds ดีกว่า(หรือสูงกว่า) โอกาสที่เราจะชนะ เราก็มีโอกาสได้กำไรมากกว่าถ้าเราcall แต่ถ้า pot odds แย่กว่า(หรือต่ำกว่า) โอกาสชนะ เราก็ไม่ควรจะต้องเสียเงินcall เพราะโอกาสขาดทุนมีมากกว่านั่นเองครับ
โดยยกตัวอย่างในบทความที่แล้ว(ถ้าไม่อ่านไปอ่านก่อนนะครับ) เรามีโอกาสเปิดเจอไพ่ 9 ใบที่จะช่วยให้เราชนะด้วยฟลัช และมีโอกาสแพ้หากเปิดเจอไพ่อีก 37 ใบที่เหลือ ดังนั้นโอกาสที่เราจะชนะคือ 37 ต่อ 9 (4 ต่อ 1) และอัตราส่วนของ pot odds ที่เราจะต้อง call ตามคือ 1000 บาทเพื่อชนะ 3500บาท(3.5 ต่อ 1) ดังนั้นเมื่อโอกาสชนะต่ำกว่า pot odds เราก็ควรหมอบเป็นต้นครับครับ
มาลองดูตัวอย่างอื่นกัน
สมมุติเราไปเล่นโป๊กเกอร์ ณ ที่แห่งหนึ่ง ไพ่ในมือเราคือ
ไพ่กองกลางคือ
ในสถานการณ์เช่นนี้จะตัดสินใจอย่างไร เริ่มด้วยมาดูจำนวนเงินใน pot ตอนนี้มีอยู่ 15,000 บาท และขณะนั้นเงินหน้าตักเรามี 5,000 บาท มือนี้เรากำลังเผชิญหน้ากับผู้เล่นอื่นอีกสองคน สมมุติชื่อ เอ และ บี ละกันครับ เอมีหน้าตัก 20,000 บาท ส่วนบีมีหน้าตัก 10,000 บาท เอที่มีหน้าตัก 20,000 เปิด All-in มาก่อน และบี call ตาม ทีนี้ถึงตาเราจะทำอย่างไรดี?
ก่อนอื่นเลย สิ่งที่เราต้องสังเกตุก่อนคือเงินหน้าตักของตัวเราตอนนี้เหลืออยู่ 5,000 บาท ดังนั้นไม่ว่าเอจะ bet มา 20,000 หรือ 5,000 ผลก็จะเหมือนกันถ้าเรา call และเมื่อรวมกับนายบีที่ call ตาม เงินใน pot ที่เราต้องคิดถึงคือ 25,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือเกินมานอกจากหน้าตัก ก็จะเป็น side pot สำหรับสองคนนั้นไปซึ่งไม่เกี่ยวกับเรา
ดังนั้น pot หลักของเรามี pot odds ที่ 25,000 ต่อ 5,000 บาท (5 ต่อ 1) ถามว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโอกาสชนะเราควรเล่นรึเปล่า? มาดูกันครับ
เพราะว่าไพ่กองกลางที่เปิดออกมาตอนนี้ มีดอกจิกถึง 4 ใบ นายเอที่ bet มาเค้าคงเหมือนพยายามบอกให้รู้แล้วว่า “ผมมีไพ่ดอกจิกอยู๋ในมือ” และจะเป็นไพ่ดอกจิกที่สูงเอาการอยู่เหมือนกัน (เพราะว่าถ้าเอไม่มีไพ่ดอกจิก เค้าคงไม่ bet แน่นอนครับ เพราะกำลังเผชิญหน้ากับผู้เล่นถึงสองคน ซึ่งโอกาสที่เค้าจะแพ้หรือโดน call ก็มีค่อนข้างสูง) ส่วนนายบี ที่ call ตามก็เหมือนจะบอกว่า “ผมก็มีไพ่ดอกจิกเหมือนกัน” ว่าแต่ไพ่ดอกจิกสองคนนี้ใครใหญ่กว่ากัน? เราก็ไม่รู้ครับ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่สิ่งที่เรารู้ตอนนี้แน่ๆคือ เรากำลังเจอกับผู้เล่นที่ถือฟลัชอยู่สองคน แต่เราก็มีตองAอยู่ในมือนะ ทำไงดี?
ซึ่งจากสถานการณ์ ถึงแม้ไพ่เราจะตามอยู่แน่นอน ก็ใช่ว่าเราจะแพ้ซะทีเดียว! เพราะไม่ว่าเราจะเจอกับคนที่ถือไพ่ฟลัชสักกี่คน เราก็ยังมีโอกาสชนะหากเราเปิดไพ่มาติด four-of-kind หรือ full-house ครับ ซึ่งไพ่ที่จะเปิดออกมาตอน river ก็จะเป็นตัวบอกว่าเราจะชนะหรือแพ้นั่นเอง และไพ่ที่ช่วยให้เราชนะก็จะมี ไพ่4-3ใบ ไพ่8-3ใบ ไพ่J-3ใบ ไพ่A-1ใบ รวมเป็น 10ใบ จากไพ่ในสำรับ 46 ใบที่เรายังมองไม่เห็นครับ
ดังนั้นเมื่อไพ่ในสำรับ มีไพ่ที่ช่วยให้เราชนะอยู่ 10 ใบและไพ่ที่เปิดออกมาแล้วแพ้ 36 ใบ ทำให้เรามีโอกาสชนะที่ 36 ต่อ 10 หรือ 3.6 ต่อ 1 นั่นเอง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับ pot odds ของมือนี้ที่เราจะต้องลงทุน คือ 5 ต่อ 1 มือนี้เราจึงควร call ครับ เพราะ pot odds สูงกว่าโอกาสชนะนั่นเอง และถึงแม้จะรู้ว่าไพ่เราตามอยู่ แต่การเล่นแบบนี้ก็ถือว่ากำไรครับ
แต่ถ้าเรามองละเอียดขึ้นไปอีกจากสถานการณ์นี้ เราจะพบว่ามันสามารถคำนวณให้ลึกมากขึ้นไปอีกครับ อย่างแรกเมื่อเรารู้ว่าไพ่ดอกจิกที่เหลืออยู่ในสำรับไม่ได้เป็นตัวช่วยให้มือเราชนะอีกต่อไป (เพราะไพ่ดอกจิกที่รอมันอยู่กองกลางหมดแล้ว) และเราก็พอจะรู้ว่าอีกสองคนต้องมีไพ่ดอกจิกอยู๋ในมืออย่างต่ำคนละใบแน่นอน ดังนั้นเมื่อตัดดอกจิกออกหมดแล้ว(รวมทั้งในมือสองคนนั้นด้วย น่าจะมีคนละใบ) ก็จะเหลือไพ่ที่เราไม่ต้องจากสำรับแค่ 34 ใบ และเหลือไพ่ที่ต้องการ 10 ใบ ดังนั้นโอกาสที่เราจะเจอไพ่ชนะคือ 34 ต่อ 10 หรือ 3.4 ต่อ 1 ครับ ในการเล่นถ้าเราเคยคิดละเอียดไปถึงระดับนี้ด้วยตัวเองมาก่อน แสดงว่าเราเป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียดของเกม และต้องเป็นผู้เล่นที่ดีคนหนึ่งแน่นอนครับ