สไตล์การเล่นโป๊กเกอร์ในแบบต่างๆ (Poker Playing Styles)

 

ถ้าเพื่อนๆเคยอ่านหนังสือ สอนเทคนิคเล่นโป๊กเกอร์ ของต่างประเทศกันมาบ้าง คงเคยเห็นศัพท์บางคำที่เค้าใช้ไว้สำหรับการอธิบายความแตกต่างของผู้เล่นแต่ละสไตล์กันใช่ไหมครับ

ศัพท์ที่ใช้อธิบายสไตล์การเล่นของผู้เล่น คือ

• Tight-Aggressive (TAG)
• Loose-Aggressive (LAG)
• Tight-Passive
• Loose-Passive

แต่อาจสงสัยกันว่าอะไรคือความหมายของคำว่า Tight,Loose,Aggressive หรือ Passive ในเกม texas holdem ใช่ไหมครับ? และ สงสัยว่าเราควรเล่นสไตล์ไหนถึงจะดีที่สุด?

คำอธิบายสไตล์ของผู้เล่น

ศัพท์แรกของคำ tight และ loose

ศัพท์แรกของการเล่นแต่ละสไตล์ อธิบายถึง จำนวนตาที่ผู้เล่นคนนั้นมักจะร่วมเล่น ซึ่งแบ่งเป็น tight และ loose

• ผู้เล่นสไตล์ tight จะร่วมเล่นเพียงเล็กน้อยจากไพ่ที่ได้รับแจกมา เน้นเล่นเฉพาะไพ่พรีเมี่ยม เพื่อเน้น ให้มีโอกาสชนะมากขึ้น
• ผู้เล่นสไตล์ loose จะร่วมเล่นด้วยไพ่ที่หลากหลาย และจำนวนตาที่เล่นเยอะ ซึ่งไพ่ที่เค้าเล่นอาจเป็นได้ทั้ง ไพ่ดี และ ไพ่ไม่ดี

ยิ่งผู้เล่นร่วมเล่นมากเท่าไหร่ เป็นตัวบ่งบอกว่าเค้าเล่นสไตล์ loose มากขึ้นเท่านั้นครับ

ศัพท์ที่สองของคำ aggressive และ passive.

ศัพท์ที่สองของการเล่นแต่ละสไตล์อธิบายถึง จำนวนของการ bet ที่ผู้เล่นคนนั้นทำ ในแต่ละรอบการเล่น ซึ่งแบ่งเป็น aggressive และ passive

• ผู้เล่นสไตล์ aggressive หรือ นักเล่นเชิงรุก มักจะเลือกเล่น โดยการ bet หรือ raise บ่อยกว่า check และ call รวมไปถึงการ bet หนักๆก็จะเกิดจากผู้เล่นสไตล์นี้
• ผู้เล่นสไตล์ player หรือ นักเล่นเชิงรับ มักจะนิยม check หรือ call มากกว่าการ bet และ raise  ผู้เล่นสไตล์นี้จะไม่ค่อย raise สวนคนที่ bet มา ซึ่งพบเห็นได้น้อยมากครับ

ดังนั้นการแบ่งผู้เล่นจากการรวมศัพท์สองส่วนเข้าด้วยกัน เราสามารถแบ่งได้เป็นการเล่น 4 สไตล์  ซึ่งเป็นตัวบอกว่า ผู้เล่นคนนั้นเล่นบ่อยเท่าไหน และวิธีการเล่นเค้าเป็นอย่างไรครับ? และเค้านิยมเล่นด้วยการ bet หรือ check มากกว่ากัน

ข้อมูลตรงนี้เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ร่วมได้กับวางแผนที่จะเล่น เพราะสมมุติเราไปบลัฟใส่คนเล่นสไตล์ loose passive และโดยปกติผู้เล่นสไตล์นี้ค่อนข้างเล่นไพ่หลากหลาย และ call ค่อนข้างบ่อย แน่นอนว่ามันไม่เวริคเท่าเรา เลือกไปบลัฟผู้เล่นประเภท tight aggressive ครับ ซึ่งผู้เล่นสไตล์นี้จะเล่นแต่ไพ่ที่ดี และมักจะ bet หรือ raise เมื่อไพ่เค้าใหญ่ครับ

ตารางการเล่นแต่ละสไตล์

และนี่คือตาราง ที่จะให้คำจำกัดความของสไตล์ผู้เล่น ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจได้โดยง่าย มีดังนี้ครับ

• tricky จอมวางแผน
• maniac นักบู๊
• rock นักเล่นจอมอึด
• calling station betมาเถอะ กูไม่ถอย

แล้วการเล่นที่ดีที่สุดใน 4 สไตล์นี้คืออะไร?

การเล่นโป๊กเกอร์ที่ให้ผลลัพท์ที่ดีนั้น เราจะต้องเล่น เชิงรุก หรือเล่น aggressive ครับ ซึ่งเราสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ความสำคัญของการเล่นaggressive ซึ่งแปลว่ารูปแบบการเล่นโป๊กเกอร์ที่ดีที่สุดนั้น มีความใกล้เคียงกันระหว่าง tight-aggressive และ loose-aggressive ครับ ซึ่งเราสามารถเล่นแบบไหนก็ได้

จำไว้ว่าไม่ว่ายังไง การเล่นสไตล์ aggressive นั้นให้ผลลัพท์ที่ดีกว่าเล่นสไตล์ passive เสมอ

แต่ผู้ชนะในเกมโป๊กเกอร์หลายคนมักจะบอกว่าสไตล์ tight-aggressive คือรูปแบบที่ดีที่สุดในการเล่น เพราะเราต้องเล่นด้วยการเลือกไพ่ที่ดี และเล่นเชิงรุกเพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด ซึ่งก็จริงอยู่นะครับ แต่ก็อาจมีผู้เล่นบางคนที่สามารถพัฒนารูปแบบการเล่นของตัวเองขึ้นมาและสร้างผลลัพท์ที่ดีกว่าได้

เพราะถ้าเราสามารถใช้วิธีเล่น loose aggressive ได้อย่างเชี่ยวชาญและถูกต้อง มันก็สามารถทำกำไร และอาจจะทำกำไรได้มากกว่าการเล่น tight-aggressive ด้วยซ้ำครับ แต่การเล่นประเภทนี้มักจะเหมาะกับคนที่เชี่ยวชาญจริงๆ ครับ

การเล่น Loose aggressive นั้นทำให้เกิดกำไรดีก็จริง แต่ค่อนข้างอันตรายถ้าตัวผู้เล่นไม่มีสติรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่

การเล่นแบบ Loose-Aggressive นั่นหมายถึงการที่เราจะต้องดูไพ่ flop ให้มากที่สุด และเพิ่มเงินใส่ pot ทั้งที่ หลายๆครั้งเราเองก็ไม่ชัวรว่าไพ่เราดีพอไหม นั่นทำให้วิธีการเล่นนี้ไม่ได้ถูกแนะนำสำหรับมือใหม่ครับ อย่างไรก็ตาม ผลลัพท์จากการเล่นวิธีนี้มันก็น่าล่อใจ เพราะมักมีคนยอมจ่ายเงินเพื่อดูไพ่ เวลาเราติดไพ่โหดๆ เนื่องจากเค้าไม่เชื่อว่าเรามีไพ่ดีจริง ไม่ให้เครดิตเรา จากสไตล์การเล่นแบบนี้นั่นเองครับ

การเล่นสไตล์ Passive นั้นทำกำไรยาก

การเล่นแบบ passive มักสร้างผลลัพท์ขาดทุนมากกว่าเสมอครับ เพราะถ้าเราอยากเป็นผู้ชนะของเกมโป๊กเกอร์ เราควรเล่นด้วยการ bet หรือ raise ให้บ่อยกว่า check หรือ call และอีกสาเหตุที่ทำให้การเล่นสไตล์ passive มักจะขาดทุน เพราะการเล่น passive นั้น มันได้ตัดโอกาสในการชนะ ออกไป 1 วิธีครับ

ในเกมโป๊กเกอร์ เราจะชนะได้ก็ต่อเมื่อ ไพ่เราดีที่สุดในตานั้น หรือ เรา bet เพื่อทำให้คู่แข่งออกจากมือ ดังนั้นการเล่นแบบ passive จะทำให้เราลดตัวเลือกการชนะเหลือเพียงแค่อย่างเดียวนั่นคือ จะชนะเมื่อไพ่เราดีที่สุดเท่านั้น ซึ่งถ้าคิดจะเล่นแค่นี้แล้วหวังสร้างกำไร มันหมดยุคไปนานแล้วครับ

ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่ที่กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้ คำแนะนำอย่างแรกคือ พยายามฝึกเป็นผู้เล่นสไตล์ Tight-Aggressive เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่มีความปลอดภัยและมีกำไรอีกด้วย และหลังจากนั้น ถ้าเราเริ่มมีประสบการณ์กับเกมและการเล่นที่เฉียบคมมากขึ้น รวมทั้งทำกำไรจากการเล่นได้ด้วย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเราจะเริ่มไปทดลองเล่นสไตล์ Loose-Aggressive และค่อยดูว่ามันเวริคกับเราไหมครับ

นักเล่นที่ผ่านประสบการณ์มาเยอะๆ มักจะชอบเล่นสไตล์ Loose-Aggressive กันครับ เพราะวิธีการเล่นนี้จะทำให้พวกเค้า ได้มีส่วนร่วมในการเล่นกับเกมมากขึ้น แถมยังช่วยขจัดความน่าเบื่อจากวิธีการเล่นที่ต้องรอแต่ไพ่พรีเมี่ยมเท่านั้นกว่าจะได้เล่นแต่ละตา แต่อย่างไรก็ตามคำแนะนำสำหรับมือใหม่ ผมก็ยังคงแนะนำให้เริ่มจากการเล่น สไตล์ Tight-Aggressive ก่อนที่จะนำตัวเองไปสู่การเล่นที่ซับซ้อนที่ยากมากขึ้นครับ

สรุป

โดยปกติ สไตล์การเล่นที่เราควรใช้ ควรสร้างกำไรกับเราครับ ถ้าเรารู้สึกว่าการเล่นสไตล์ Tight-Aggressive นั้นเวริคแล้วสำหรับเรา ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฝืนเปลี่ยนตัวเองไปเล่นวิธีอื่นครับ

เช่นเดียวกัน ถ้าเราบอกว่า ฉันเล่นสไตล์ passive แล้วแฮปปี้กว่าเล่นสไตล์ aggressive เราก็สามารถเล่นแบบไหนก็ได้ตามใจเราครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราอยากทำเงินให้มากกว่าเดิมเวลาชนะ การเล่นสไตล์ aggressive ย่อมทำเงินมากกว่าการเล่นสไตล์ passive แน่นอนครับ

และถ้าให้ผมจัดอันดับว่าการเล่นแบบไหนที่เวริคที่สุด ผมก็จะเรียงลำดับตามนี้ครับ

1. Tight-Aggressive
2. Loose-Aggressive
3. Tight-Passive
4. Loose-Passive.

ในสองอันดับแรกนั้นก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ครับ เพราะการเล่นสไตล์ loose-aggressive มันก็มีดีตรงที่บางครั้งมันทำเงินให้เราเยอะและเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม การเล่นแบบสไตล์ tight aggressive นั้นดีสำหรับมือใหม่แน่นอน และการเล่นสไตล์ Loose-Aggressive นั้นค่อนข้างเสี่ยงด้วยครับ ถ้าเราไม่สามารถคุมสติได้ตลอดเวลา และรู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่