สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมจะมาเพิ่มความรู้พื้นฐานสำหรับการเล่นโป๊กเกอร์มือใหม่กัน คือการดูไพ่ในมือเรา กับไพ่ฟลอปกองกลาง ว่าเราhit อะไร เป็น made hand หรือ draw รึเปล่า? และฟลอปแต่ละอย่างมีชื่อเรียกว่าอะไรกันบ้าง
อะไรคือ made hand?
made hand คือไพ่ที่มีโอกาสเป็นมือดีที่สุดในมือนั้น เช่น ติด pair ติดตอง (tree of kind) มือพวกนี้ส่วนมากไม่จำเป็นต้องพัฒนาต่อ หลังจากติด made hand ในฟลอปแล้ว แต่บางครั้งมันก็อาจมีการพัฒนาให้เป็นมือที่ดียิ่งขึ้นไปอีกได้ เช่น ตองเพิ่มเป็น fullhouse หรือ คู่ กลายเป็นสองคู่หรือตองเป็นต้น
มือประเภท two pair,flush,three of kind ส่วนมากเป็น made hand ที่เราเรียกกันว่า monster hand หมายถึง มือที่แข็งแกร่งมากๆ เพราะส่วนมากเวลาเราติด monster แล้ว ไพ่เรามักจะนำคู่ต่อสู้เสมอ และเราจะสามารถทำกำไรจากมันได้ ถ้าเราเล่นอย่างถูกวิธี
ตัวอย่างไพ่ที่เป็น monster คือ
- two-pair
- three of kind (ตอง)
- straight (เรียง)
- flush (สี)
- full-house (เห่า)
- 4 of kind (หอน)
- straight flush (เรียง+สี)
- royal flush (เรียง+สี) A-K-Q-J-T
top pair
เมื่อเราได้ไพ่คู่ที่สูงที่สุดใน flop กองกลาง เราเรียกว่า top pair ส่วนตัวข้างๆเรียก kicker ตัวอย่างเช่น เรามี A เป็นตัว kicker ดังรูป มือนี้เราจึงเรียกว่าเราได้ top pair top kicker แต่ถ้าตัว kicker ต่ำ เช่นเรามี 10J อาจเป็นไปได้ว่าตัว kicker เราอาจจะโดน kicker อื่นชนะได้ เราจึงเรียกว่า top pair weak kicker เป็นต้น
over pair
หากเรามีไพ่คู่อยู่ในมือ และสูงกว่าไพ่ flop กองกลางทั้งหมด เรียกว่าเราได้ over pair ซึ่งคนที่ได้แค่ top pair จะไม่มีทางเหนือกว่า over pair
two pair
ไพ่ two pair หรือ ไพ่สองคู่ เราจะเป็นไพ่ monster ได้ก็ต่อเมื่อ เราติดทั้งสองคู่จากฟลอปจากไพ่ในมือเราทั้งสองใบ แต่ข้อควรระวังก็คือ หากฟลอปกองกลางมีไพ่คู่อยู่แล้ว ไพ่ two pair ในมือเราจะเป็นแบบ weak หรือ ไม่ใช่ monster แล้ว เพราะคนอื่นอาจจะติด three of kind ไม่ก็ full house ไปแล้ว
ไพ่ประเภท draw คืออะไร?
มือ draw คือมือที่ยังไม่สมบูรณ์เมื่อรวมกับไพ่ในฟลอป แต่สามารถพัฒนาเป็นมือที่ดีขึ้นด้วย เมื่อจั่วได้ไพ่ที่ช่วยเหลือออกมาตอน turn หรือ river
โดยการ draw มีทั้งแบบ strong draw และ weak draw โดยขึ้นอยู่กับไพ่ที่เรารอให้มาช่วยเหลือ สมมุติ ถ้าเรารอ flush draw มันจะมีไพ่อีก 9 ใบ ที่จะมาเปลี่ยนมือเราเป็น flush ได้ หรือสมมุติถ้าเรามีคู่ในมือ มันก็จะมีไพ่อีก 2 ใบที่จะมาเปลี่ยนมือเราเป็น three of kind ได้ เป็นต้น
osed (open-ended straight draw)
สถานการณ์นี้คือ เมื่อไพ่ในมือเรา ผสมกับไพ่ฟลอป แล้วเป็น straight อยู่แค่ 4 ใบ ซึ่งจะเป็น straight สมบูรณ์ ได้ก็ต่อเมื่อมีไพ่มาต่อที่หัวหรือท้าย (เช่นดังรูปคือ รอ draw A และ 9 เป็นต้น)
หมายความว่าเราจะเป้น straight ได้สมบูรณ์ก็ต่อเมื่อ ไพ่ที่เรารอซึ่งมีจำนวน 8 ใบใน deck โผล่มาเป็น straight ให้เรา เรียกว่า osed
flush draw
คิดว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับ flush draw ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ เพราะมองค่อนข้างง่ายครับ คือการรอไพ่สีนั่นเอง flush draw จะมีโอกาสได้ไพ่ที่จะมาพัฒนาจาก deck เป็น flush อยู่ที่ 9 ใบนะครับ
monster draw
คือการรวมกันระหว่าง osed+flushdraw นะครับ ซึ่งไพ่เรามีโอกาสเป็นได้ทั้ง สี+เรียง เรียกว่า monster draw
double gutshot
ไพ่ประเภทนี้เป็นการรอเรียงอีกอย่างที่แตกต่างจาก osed โดยมีพื้นฐานมาจาก ไพ่ประเภท gutshot
gutshot คือ การรอไพ่ใบเดียวตรงกลางที่หายไป เพื่อมาผสมให้เป็นเรียง ตัวอย่างเช่น เราถือ AQ ฟลอปมี J-T-2 ซึ่งตัว K หายไปหนึ่งตัวที่จะมาเป็นเรียง แต่ double gutshot คือการรวมกันระหว่าง 2 gutshot ด้วยกัน ซึ่งมีไพ่หายไปสองใบ และนำมาผสมได้ให้เป็นเรียง
จากตัวอย่างรูปข้างบน เช่น เราถือ QJ ฟลอปมี A-T-8 ไพ่ที่เป็น gut shot มี 2 ใบคือ K และ 9 เป็นต้น
ซึ่งจากสถิติแล้ว หากเราติด double gutshot มีความเป็นไปได้ว่าเราจะสามารถกินเงินคู่ต่อสู้ได้หนักกว่า osed เพราะเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ที่อีกฝ่ายนึงจะรู้ตัว
over card
ถ้าเราไม่ติดอะไรเลยสักอย่างในฟลอป แต่เราถือไพ่ที่สูงกว่าในฟลอปเฉยๆเรียกว่า over card นะครับ ซึ่งไพ่เราก็ยังไม่ใช่ made hand ด้วย และไม่ได้ draw ใดๆ แต่เราก็สามารถที่จะติด pair ในไพ่ใบหลังได้ ซึ่งค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเราจะเป็น top pair แน่นอน
ทีนี้เรามาดู out ของไพ่ draw แต่ละแบบกัน (out คือไพ่ที่กำลังรอ)
จะเห็นได้ว่ายิ่ง out ต่ำโอกาสพัฒนาก็จะยิ่งน้อย ณ ครับ เพราะฉนั้นหวังว่าเพื่อนๆมือใหม่ คงสามารถเอาไปปรับใช้กับสถานการณ์การเล่นได้มากขึ้น ไม่ใช่ call ไปๆ หวังเพิ่งแต่ดวงอย่างเดียว
สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์แก่ผู้เล่นมือใหม่ทุกท่านครับ ^^